สล็อตออนไลน์ จับโจรปล้นร้านทองลพบุรี – เมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 9 มกราคม เกิดเหตุสะเทือนขวัญชาวลพบุรีและชาวไทยทั้งประเทศ ชายคนร้ายสวมชุดสีดำกางเกงหลายพลาง คุมไอ้โม่ง ถือปืนเก็บเสียง ขนาด 9 ม.ม. บุกเข้าปล้นร้านทองในห้างโรบินสัน ในจังหวัดลพบุรี
คลิปจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นคนร้ายเดินเข้าห้างมาทางประตูใกล้ร้านทอง
จากนั้นก็กราดยิงใส่คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ยิงหน้าอกพนักงานขายของร้านเสียชีวิตในร้าน ยิงรปภ. และที่น่าเศร้าคือ หนึ่งในนั้นกระสุนได้ปลิดชีพเด็กน้อยวัยเพียง 2 ขวบที่มาเดินเที่ยวห้างจากแม่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ล่าสุด วันนี้ช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ลงมือปล้นทองโรบินสันลพบุรี ทราบชื่อคือนาย ประสิทธิชัย เขาแก้ว ครูชายวัย 38 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ตอนนี้อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก เจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ฆ่า3ศพและปล้นทองจริง
นอกจากนี้ ข่าวสดออนไลน์ได้รายงานว่า นายประสิทธิชัย เขาแก้ว สารภาพว่าที่ลงมือปล้นร้านทอง เพราะมีปัญหาเรื่องหนี้สิน และอยากถูกตำรวจจับตาย จึงก่อเหตุสะเทือนขวัญ ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนพบปืนที่บ้าน นายประสิทธิชัย ในซอยร่วมสุข อ.เมือง จ.ลพบุรี เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังเข้าตรวจสอบ. ล่าสุด ประมาณช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้สัมภาษณ์ว่า จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ปิดโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย1วัน พร้อมเยียวจิตใจครู-นักเรียนจากกรณีที่ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย เป็นผู้ก่อเหตุบุกปล้นชิงทอง ทำให้มีผู้เสียชีวิต3 ราย ล่าสุด เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะถือเป็นคดีอุจฉกรรจ์ ส่วนสาเหตุแรงจูงใจให้ก่อเหตุนั้นยังไม่ทราบ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนต่อไป แต่ในส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาหลักฐานในโรงเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของครูและนักเรียนจึงได้สั่งการให้โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี หยุดการเรียนการสอน 1 วัน อีกทั้งยังมอบหมายให้ สพป.สิงห์บุรี จัดนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจของครูและเด็ก
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำหรับการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษานั้น หากเรื่องดังกล่าวมีความชัดเจน ได้ข้อสรุปการสืบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางคุรุสภา ก็จะใช้อำนาจเลขาฯ คุรุสภาในการดำเนินการถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารทันที
รับ ส.ส. เสียบบัตรแทนกันจริง
จากกรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “คุณศุภชัย ใจสมุทร พรรคภูมิใจไทย พูดว่า ผมเหมือนสุนัขพันธุ์บูลด็อคที่กัดไม่ปล่อย ผมว่าท่านไม่สุภาพ พูดไม่ให้เกียรติกัน แต่ไม่เป็นไร สันดานของท่านอาจเป็นคนอย่างนั้น ผมเพียงทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ แต่เอาเถอะ ไหนๆ ท่านก็ว่าผมกัดไม่ปล่อยแล้ว ผมก็จะขอให้ท่านศุภชัย ใจสมุทร ช่วยตรวจสอบการกดบัตรของ ส.ส.ให้ผมอีกสักราย ดูซิว่าข้อมูลในมือของผมกับข้อมูลในมือของท่านจะตรงกันไหม
วันที่ 11 มค.2563 ขณะที่มีการประชุมงบประมาณ ผมได้ข่าวว่า นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางไปประเทศจีน ลองตรวจดูหน่อยสิครับว่า หลังจาก check in (เช็คอิน) ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว บัตรของคุณนาที รัชกิจประการ ยังมีการกดโหวตอยู่ที่สภาหรือเปล่า อย่าว่าใครผิด ใครถูกเลย ถือว่างานนี้ ผมท้าให้ท่านเปิดเผยข้อมูลก็แล้วกันครับ แล้วมาดูกันว่า ข้อมูลในมือของท่านกับข้อมูลในมือของผมตรงกันหรือเปล่า”
ทั้งนี้ที่ประชุมได้ประมวลข้อกล่าวหาจากพยานหลักฐาน เบื้องต้นมีความเห็นว่า พอเก่าหาเรื่องการเสียบบัตรแทนกันนั้นเป็นจริง และทำให้ผลการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในมาตรา 31 ถึง 55 ถือว่าเป็นการลงมติ ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นเพียงเสียงเดียวก็ตาม ทั้งนี้กระบวนการที่จะทำให้ชอบ และถูกต้องได้ คือการทำตามมาตรา 139 ของ รธน. โดยให้สมาชิกรัฐสภาจำนวน 1 ใน 10 จำนวน 75 คน เข้าชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งได้รายงานต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้ว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา และเห็นว่าเพื่อให้เกิดหลักการที่ถูกต้อง เรื่องนี้จะต้องหารือกับสมาชิก ต่อที่ประชุมสภาในวันพรุ่งนี้ ว่าจะตัดสินใจอย่างไรส่วนจะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้นต้องดูมติจากที่ประชุมพรุ่งนี้อีกครั้ง
ขณะที่ นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังประชุม ฝ่ายกฎหมายถึงกรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่านายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในสภา ในวันที่มีการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แต่กลับมีรายชื่อร่วมลงมติว่า จากการตรวจสอบพบว่าข้อกล่าวหาของนายนิพิฏฐ์ เป็นจริง โดยเมื่อเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักชวเลข มาตรวจสอบรายงานผลการลงคะแนน ตั้งแต่มาตรา 31 ถึง 55 พบว่ามีชื่อของนายฉลอง ลงมติจริง และเมื่อตรวจสอบบันทึกการเก็บรักษาบัตร พบว่าบัตรของนายฉลอง ถูกเบิกนำไปใช้จริงและนำไปใช้ลงมติวันที่ 8 ถึง 10 มกราคม โดยไม่ได้มีการคืนบัตร แต่มาคืนในเวลา 17:30 น. ของวันที่ 11 มกราคม และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าบัตรของนายฉลอง ถูกนำไปใช้ที่ช่องใด สล็อตออนไลน์